บันทึกอาสา: #1 ที่บ้านตุ่น 🦦 …
--
เล่าให้ตัวเราและคนที่ผ่านมา ได้ฟังนะ …

หากอยากเริ่มอ่านเนื้อหาค่าย สามารถข้ามไปส่วนของค่ายได้เลยนะ 🍃
เรา ในปี 2020 💌
คงจะเป็นปีที่ทุกคน ได้หยุด พัก และคิดถึงตัวเองในวันนี้ อดีต และอนาคตมากขึ้น
เราก็เช่นกัน … หนึ่งความคิดที่วนอยู่ในหัวเสมอ คือ จริงๆ แล้วเราอยู่ทุกวันนี้ไปเพื่อจุดประสงค์ หรือความหมายอะไรกัน?
หลังจาก New Year’s resoltuion ที่ได้วางไว้ ได้พังลงไปกับตาหลังเริ่มปีได้ 2 เดือน
ปีนี้ได้ฟัง Podcast มากขึ้น ได้คิดทบทวนอยู่เงียบๆ ด้วย ก็มีประโยคนึงที่วนเข้ามาในหัวบ่อยที่สุดคือ …
หากอยากรู้สึกว่าตัวเองมีค่า ให้ออกไปช่วยคนอื่น
นั่นเป็นการเริ่มต้น เปลี่ยนแผนชีวิตในเดือนที่เหลืออยู่ของปีนี้ …เริ่มค้นหา ค้นหาค่ายอาสาสมัคร
การค้นพบ 🧭
ตอนแรก ค้นหาค่าย Online ส่วนมากจะเป็นแบบไปเช้า-เย็นกลับ บ้างก็ดูโหดไปสำหรับครั้งแรก (ซึ่งอาจทำให้เราไม่ชอบมันเลยก็ได้นะ)
อยู่ๆ วันนึง Youtube ก็มี Ads ค่ายอาสาสมัคร TCP Spirit พยาบาลลุ่มน้ำ ครั้งที่ 3 อืม… เหมือนเคยได้ยินเกี่ยวกับค่ายนี้นะ ลองฟังเรื่อยๆ จนพบว่าตัวเองนั่งดู Ads จนจบ และในเช้าวันเดียวกันนั้น รู้ตัวอีกที เราก็อยู่ในหน้า “สมัครร่วมกิจกรรม”
คงจะเป็นการถามข้อมูลส่วนตัวเฉยๆ ไม่น่าจะมีอะไรมาก จนไปหยุดที่คำถามหน้าสุดท้าย … เป็น 3 คำถาม (ซึ่งเป็นปกติของค่ายแหละ) แต่เราไม่ชอบอะไรพวกนี้เลย แรกๆ จะแต่งคำตอบให้สวยงาม แต่หลังกลับไปนอนคิด ก็คิดได้ว่า
ถ้าเขาจะรับ ขอให้รับในแบบที่เราเป็น 👍
เลยเขียนคำตอบไปในอย่างที่เราอยากจะบอก และอย่างที่เราเป็น ซึ่งสุดท้ายเราก็มีรายชื่ออยู่ในหน้าประกาศผล 👏
ก่อนจะไปก้าวออกไป 🚶🏻♀️
สองสามวันก่อนจะไปค่าย มีอาการตบตีกับความคิดตัวเองหนักมาก ว่าจะไปหรือไม่ไปดี ตอนประกาศผลนั้น รู้สึกดีใจมากๆ นะ แต่ก็มีความรู้สึกบางอย่าง ที่ไม่กล้าก้าวออกไปจากวงของตัวเอง สักที
สุดท้าย เช้าวันที่ 13 พฤศจิกายน ก็ตื่น 4.30AM แล้วอาบน้ำ ออกเดินทางไปยังจุดนัดพบเพื่อไป จังหวัดพะเยา จนได้ (เก่งมากๆ เลย 🎖)
เดินทางไป จังหวัดพะเยา กัน!
ได้ทำอะไรบ้าง 🐛
ในรายละเอียดค่าย เขียนว่า วันที่ 13–15 พฤศจิกายน แต่จริงๆ กิจกรรมหลักๆ จะมีอยู่ประมาณหนึ่งวันกว่าๆ นอกนั้นจะเป็นการเดินทาง
13 พฤศจิกายน
ทั้งวันจะเป็นการเดินทางจาก กรุงเทพฯ ไป พะเยา มีกิจกรรมต่างๆ บนรถ ซึ่งก็จะลำบากกับคนแบบเราหน่อย แต่ก็ถือว่าได้ใช้เวลาที่ไม่รู้จะทำอะไรให้ผ่านไปได้เร็วขึ้น
ถึงโรงแรง 7PM คนที่เดินทางมาเองก็จะมาเจอกันที่นี่ เข้านอน เจอกิจกรรมจริงพรุ่งนี้!
14 พฤศจิกายน
ตื่นเช้า กินข้าว พร้อมออกเดินทาง! ไปโรงเรียนบ้านดอกบัว 🌸

ช่วงเช้า ก็จะมีพิธีเปิด ซึ่งเป็นพิธีเปิดที่น่ารักดี ไม่ทางการสูง จนเกินไป แต่ก็ยังมีความทางการแทรกเล็กๆ แต่มันเหมือนเป็นการต้อนรับจากชุมชน เปิดใจเราให้พร้อมเรียนรู้ และใช้กำลัง 💪
ออกเดินทางไปยัง ต้นน้ำ ด้วย รถอีแต๋น

#ป่าไผ่ 🎋
ให้อารมณ์ดีกว่าตอนไปญี่ปุ่นอีกนะ 😜
มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับ “อ่างเก็บน้ำห้วยตุ่น” ที่มาจากอุทยานดอยหลวง ผ่านประตูเปิด/ปิดน้ำ ลงไปจุดแบ่งน้ำให้ 2 พื้นที่ การเกษตร และชุมชน จุดเก็บน้ำต่างๆ

เล่าถึงปัญหาต่างๆที่ ชุมชนได้พบเจอ จนทำให้เขาได้มีการพัฒนาจากความร่วมมือและเข้าใจกันของทุกฝ่ายในชุมชน
เป็นเรื่องที่จะต้องปรบมือให้ เพราะเป็นเรื่องยากนะ ที่ทุกคน ต่างความคิด ต่างประสบการณ์ สามารถที่จะยอมร่วมมือกัน เพื่อทำสิ่งๆ หนึ่งที่เป็นเป้าหมายเดียวกัน คือพัฒนาและรักษา น้ำ ที่พวกเขามีไว้ให้ดีและมากที่สุด 👏
จากนั้นก็จะแบ่งกันไปทำ ภารกิจช่วยชุมชน เป็นกลุ่มๆ
เราได้ไป ขุดลอกลำเหมือง ก่อน จะเป็นการทำความสะอาด ลำเหมือง ที่เป็นทางผ่านของน้ำที่ผ่านการแบ่งของเจ้า “แตปากฉลาม” 🦈 จุดแบ่งน้ำยอดฮิต และชื่อที่น่ารัก

น้ำจากอ่างเก็บน้ำด้านบน
ไหลลงมาเจอ แตปากฉลาม ก็จะแยกเป็น 2 ทางคือ
ซ้าย (ในรูป) ไปการเกษตร ซึ่งจะมี ต๊างน้ำ 🐚 เป็นรูเอากินมาปิด/เปิด น้ำเข้านา
และขวา (ในรูป) ไปชุมชน ✍️
การลอกลำเหมืองนี้ ชาวบ้านทำกันทุกปีอยู่แล้ว แต่เรามาช่วยลดภาระไปหน่อยในบางจุดที่กำลังเราทำได้. 🤗
กินข้าวเที่ยง (ที่นี่เลี้ยงอาหารได้ดีอยู่นะ) แล้วลุยต่อ!

ช่วงบ่าย
ขึ้นกลับไปยังต้นน้ำ ฟังบรรยาย ในห้องเรียนคูลๆ 🏡
พร้อมแยกย้าย ปลูกไผ่ หญ้าแฝก ตามแนว แก้มลิง 🙉 ช่วยเก็บงานสีที่ทาถังสำรองน้ำ x9 ถังที่อีกกลุ่มได้ทำไว้ (สลับกิจกรรมกัน เช้า-บ่าย)
ตอนเย็น กินข้าวกับกิจกรรมสันทนาการ จบวันแห่ง ความรู้และกิจกรรม 🌈
15 พฤศจิกายน
เป็นวันสบายๆ เรียนรู้ความเป็นอยู่ของคน ชุมชนแถบกว๊านพะเยาที่
โฮงเฮียนกว๊านพะเยา 🏡
อากาศหนาวมากเช้านี้ หนาวกว่าเปิดแอร์ ซะอีก 🥶

ตอนเที่ยง มีกิจกรรมชวนคิด เป็นกลุ่มก่อนจะมีพิธีปิด แล้วเดินทางกลับ กรุงเทพฯ 😎
สุดท้ายแล้ว …
จริงๆ บทความนี้ อยากจะบันทึกความทรงจำครั้งแรกกับกิจกรรมที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะได้ทำ หรือ ทำได้
แต่มันยังเป็น Thesis (ที่อาจจะแหวกแนว คนอื่นๆ หน่อย) หลังจบค่าย ที่ทางค่ายได้มอบหมายให้ทุกคนได้เล่าประสบการณ์ในรูปแบบต่างๆ ออกมาให้คนที่ไม่ได้ไปมาฟังกัน
เรามองว่าเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ทบทวนสิ่งที่เราได้และทำไป ✍️
อยากจะแปะ Maps ไว้ด้วยว่าเราผ่านที่ใดบ้างในค่ายนี้ 🗺
การก้าวออกไปครั้งนี้ทำให้เราได้เปิดใจอะไรหลายๆ อย่าง และมองสิ่งต่างๆ ด้วยความเข้าใจมากขึ้น
ตอนแรกคิดนะ การเป็นค่ายอาสา จะต้องใช้กำลัง เยอะ และอย่างเดียว เลยทำให้ผิดหวังหน่อยๆ ในตอนแรก แต่พี่ Alex ก็ได้พูดไว้ดี (อย่างกับรู้ว่าจะมีคนถามคำถามนี้) ค่ายอาสาส่วนใหญ่จะใช้กำลังและ แต่ค่ายนี้เน้นความรู้ บวกกำลังที่เราพอทำได้ 💪และด้วยความรู้มันอาจจะยิ่งใหญ่มากกว่าการลงกำลังอย่างเดียวโดยไม่รู้ว่าทำไปทำไม!
ไม่เพียงได้ความรู้จากชุมชน แต่ได้เพื่อน (ที่ทุกคน Friendly มากๆ แบบเกินความคาดหมาย) แต่ยังได้
มองเห็นคุณค่าของตัวเอง และรักตัวเองมากกว่าเดิม …